คำถามเกี่ยวกับยา
โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
เรื่อง : ยา 5 แอลฟา รีดักเตส อินฮิบิเตอร์
ยา 5 แอลฟา รีดักเตส อินฮิบิเตอร์ (5 alpha reductase inhibitor) เป็นกลุ่มยาที่มีฤทธิ์ต้านการทำงานฮอร์โมนเพศชาย แอนโดรเจน (Antiandrogen) ทางคลินิกได้นำมาใช้
- บำบัดรักษาอาการต่อมลูกหมากโต ช่วยทำให้การขับถ่ายปัสสาวะในบุรุษดีขึ้น
- ลดความเสี่ยงและป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก
- รักษาอาการศีรษะล้านหรือผมร่วงในบุรุษและสตรี
- ผลต่อระบบต่อมไร้ท่อ: เช่น ลดสมรรถนะทางเพศ อาจพบภาวะคัดตึงเต้านม หรือทำให้เต้านมโต
- ผลต่อสภาพจิตใจ: เช่น ซึมเศร้าและวิตกกังวล
- ผลต่อตา: เช่น พบภาวะต้อกระจก
- Finasteride: ใช้บำบัดอาการต่อมลูกหมากโตและภาวะผมร่วง มีรูปแบบเป็นยาชนิดรับประทานและวางจำหน่ายภายใต้ชื่อการค้าหลายตัว ผลข้างเคียงที่เด่นชัดของยาตัวนี้ คือ ทำให้สมรรถภาพทางเพศในบุรุษบางรายถดถอยเมื่อใช้ยานี้เป็นระยะเวลานานๆ กระทรวงสารธารณสุขของไทยจัดให้ Finasteride เป็นยาอันตราย และต้องมีการสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น
- Dutasteride: ใช้บำบัดอาการต่อมลูกหมากโต ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก รักษาอาการผมร่วง มีรูปแบบยาแผนปัจจุบันเป็นยารับประทาน สามารถใช้ในลักษณะของยาเดี่ยวหรือจะใช้ร่วมกับยากลุ่มแอลฟา-บล็อกเกอร์ (Alpha-blocker) อย่างยา Tamsulosin ก็ได้ ยา Dutasteride จะมีความแรง (Potent) และมีอายุหรือค่าครึ่งชีวิต (Half life) อยู่ในร่างกายได้ยาวนานมากว่ายา Finasteride การใช้ยานี้มีผลข้างเคียงทำให้สมรรถภาพทางเพศถดถอยได้เช่นเดียวกันแต่ไม่มากเท่าใดนัก กระทรวงสารธารณสุขของไทยก็จัดให้ยานี้อยู่ในหมวดยาอันตรายเช่นกัน
- Alfatradiol: หรือรู้จักกันในชื่ออื่นว่า 17 Alfa-estradiol หรือ 17-epiestradiol เป็นกลุ่มยาที่มีฤทธิ์แรงในฐานะยา 5 แอลฟา รีดักเตส อินฮิบิเตอร์ อีกตัวหนึ่ง แต่เป็นยาประเภทฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มีฤทธิ์ต่ำ ยา Alfatradiol มีรูปแบบผลิตภัณฑ์เป็นยาทารักษาอาการผมร่วงที่ใช้ได้ทั้งกับบุรุษและสตรี โดยมีอาการข้างเคียงน้อยเมื่อใช้กับผิวหนัง
- ห้ามใช้ยานี้ชนิดรับประทานกับสตรีตั้งครรภ์และเด็ก
- ห้ามใช้ยานี้กับสตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตรและในผู้สูงอายุโดยไม่มีคำสั่งจากแพทย์
- ห้ามปรับขนาดรับประทานหรือเพิ่มระยะเวลาการใช้ยานี้ด้วยตนเอง
- ระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วยโรคตับ
- ระหว่างการใช้ยานี้ ควรได้รับการตรวจร่างกาย/ตรวจสภาพต่อมลูกหมากจากแพทย์เป็นระยะๆ ตามแพทย์นัด และผู้ป่วยควรมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลตามนัดหมายทุกครั้ง
- การใช้ยา Finasteride ร่วมกับยากลุ่ม Calcium channel blocker เช่นยา Diltiazem หรือยาอื่นๆ อย่างเช่นยา Fluconazole, Itraconazole หรือยาต้านไวรัส เช่น Nelfinavir สามารถเพิ่มระดับและปริมาณยา Finasteride ในกระแสเลือดจนอาจทำให้ผู้ป่วยได้รับผลข้างเคียงสูงขึ้นตามมา หากมีความจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดรับประทานให้เหมาะสมกับผู้ป่วยเป็นรายบุคคลไป
- การใช้ยา Dutasteride ร่วมกับยา Ciprofloxacin, Nifedipine, Amprenavir อาจเพิ่มความเสี่ยงในการทำให้สมรรถภาพทางเพศถดถอยลงได้มากขึ้น หากไม่มีความจำเป็นใดๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน